18 กรกฎาคม 2552

พระธาตุข้าวบิณฑ์

พระธาตุข้าวบิณฑ์ ครูบาวงศ์ฯ

พระธาตุข้าวบิณฑ์ไม่จัดเป็นพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ แต่จัดเป็นพระธาตุเทพนิมิต ตามตำรากล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ วันหนึ่งได้เสด็จมาไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแม่ระมิงค์เพื่อไปโปรดพวกละว้า พวกละว้าเหล่านั้นอยู่ในภาวะอดอยาก ผืนดินแห้งแล้งทำการเพาะปลูกไม่ได้ผล ต้องหาหัวเผือกหัวมันมาต้มผสมกับข้าวกินเป็นอาหาร เมื่อพระพุทธองค์ได้เสด็จมาถึงที่นั่น พวกละว้าก็เอาข้าวผสมมันซึ่งเป็นโภชนาหารของตนมาใส่บาตร พระบรมโลกนาถก็ทรงรับแล้วฉันภัตตาหารเช้า ณ ที่นั้นซึ่งเรียกว่า ดอยน้อย เสร็จแล้วก็ทรงให้ศีลให้พรพวกละว้าทั้งหลาย หลังจากนั้นจึงทรงโปรดให้พระอานนท์นำข้าวในบาตรหลังจากฉันเสร็จไปเทคว่ำไว้ และแสดงปาฏิหาริย์ให้ข้าวนั้นกลายเป็นหิน กลายเป็นพระธาตุข้าวบิณฑ์ เพื่อให้พวกลั้วะ หันมานับถือพระรัตนตรัย แทนการนับถือผี และเพื่อเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ บางคนเรียกว่า พระธาตุข้าว หรือ พระธาตุพุทธนิมิตร ลักษณะเป็นองค์กลมๆสีขาวแกมเหลือง พวกละว้าเมื่อเห็นดังนั้นก็เกิดเลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก พระพุทธองค์จึงทรงให้ศีล 5 และแสดงธรรม และรับสั่งให้พวกละว้ารักษาดอยน้อยไว้ให้ดี ให้รักษาศีล 5 ไว้เป็นปกติ ถ้ารักษาศีลได้ก็เหมือนอยู่ใกล้พระพุทธองค์ ถ้ารักษาศีลไม่ได้ก็เหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าจักรวาล


เมื่อพระครูบาชัยยะวงศาพัฒนาได้มาจำพรรษาเพื่อพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ณ อ.ลี้ จ.ลำพูน ท่านได้นิมิตเห็นพระธาตุข้าวซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กม. ที่ดอยเกิ้ง ท่านจึงได้อัญเชิญพระธาตุข้าวบางส่วนมาไว้ที่วัดและแจกให้ลูกหลานนำไปสักการบูชา ผู้ที่อยู่ในศีลในธรรมที่มีพระธาตุข้าวไว้บูชาแล้ว ความอดอยากขาดแคลนจะไม่บังเกิดขึ้น การทำมาค้าขายโดยสุจริตจะได้ผลเจริญงอกงาม เมื่อประสงค์สิ่งใดให้ทำสมาธิ จิตระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและครูบาชัยวงศาฯ แล้วตั้งจิตขอในสิ่งที่ปรารถนา จะได้ผลดีมากสำหรับผู้ที่มีศีล 5 เป็นปกติ

ข้าวก้นบาตรที่กลายเป็นหินนี้ แต่ละเม็ดมีเทพคุ้มครองอยู่ พระธาตุข้าวอาจเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
หากเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่รับประทานยาแผนปัจจุบันแล้วไม่สามารถบรรเทาทุกข์เวทนาให้หายลงได้ ก็ให้ทำน้ำพระพุทธมนต์โดยจุ่มพระธาตุข้าวลงในภาชนะใส่น้ำที่จะทำน้ำพระพุทธมนต์ ตั้งจิตอธิษฐานแล้วดื่มน้ำพระพุทธมนต์นั้น จะบรรเทาทุกข์เวทนาที่เกิดขึ้นได้

" บ้านแสงจันทร์ " www.saengchandra.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น